25650123am--คุณูปการของท่านติช นัท ฮันห์

Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) - Podcast tekijän mukaan watpasukato

23 ม.ค. 65 - คุณูปการของท่านติช นัท ฮันห์ : เพราะฉะนั้นเรื่องการภาวนากับการทำงานเพื่อสังคม จึงไม่แยกจากกัน คำสอนของท่านยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆที่ดูเหมือนขัดแย้งกันอยู่เสมอ อย่างเช่นท่านบอกว่า ดอกไม้กับขยะ แยกจากกันไม่ออก เพราะว่าดอกไม้เมื่อทิ้งไว้สักพักหรือระยะหนึ่ง ก็กลายเป็นขยะ แล้วขยะในที่สุดก็ก่อเกิดเป็นดอกไม้ เพราะว่าขยะกลายเป็นปุ๋ยให้กับดอกไม้เจริญงอกงาม อันนี้เป็นอิทัปปัจจยตาที่ท่านอธิบายให้เห็นง่ายๆ   รวมทั้งชี้ให้เห็นว่า ทุกสิ่งมันประกอบด้วยสิ่งที่ไม่ใช่มัน อย่างเช่นเก้าอี้ ก็เกิดจากสิ่งที่ไม่ใช่เก้าอี้ เก้าอี้เกิดจากอะไร เก้าอี้เกิดจากไม้ เกิดจากตะปู เกิดขึ้นมาได้เพราะว่าช่างไม้ ทั้งช่างไม้ก็ดี ตะปูก็ดี กาวก็ดี ไม่ใช่เก้าอี้ แต่เพราะว่ามีสิ่งที่ไม่ใช่เก้าอี้ เก้าอี้จึงเกิดขึ้น อันนี้ท่านสอนเรื่อง “อนัตตา”แล้ว   สอนให้รู้ว่า ตัวเก้าอี้ไม่มี ตัวตนของเก้าอี้แท้ไม่มี มันเกิดจากสิ่งที่ไม่ใช่เก้าอี้ ซึ่งก็คือสรรพสิ่ง เพราะว่าไม้ก็ดี เกิดขึ้นได้เพราะว่ามีฝน ฝนเกิดขึ้นได้เพราะมีเมฆ เมฆเกิดขึ้นได้เพราะมีพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้น ถ้ามองเก้าอี้ก็จะเห็นถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ก้อนเมฆ   มองมาที่ตัวเราแต่ละคน ก็จะเห็นจักรวาลทั้งจักรวาล เพราะฉะนั้น เราก็เกิดจากสิ่งที่ไม่ใช่เรา อันนี้เป็นการมองความจริงแบบพ้นภาวะที่เรียกว่าทวิภาวะ ซึ่งเป็นการมองที่ลึกซึ้งมากในพระพุทธศาสนาที่ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง   และถ้ามองอย่างนี้ ก็จะพบว่าไม่มีตัวตนของสิ่งใดเลย สิ่งใดไม่มีตัวตนที่เที่ยงแท้เพราะมันล้วนแต่เกิดจากสิ่งอื่น อันนี้คือเรื่องอนัตตาเลย ท่านสอนโดยใช้ภาษาที่ไพเราะ และอุปมาที่เข้าใจง่าย ที่ทำให้เราเข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา จนกระทั่งทำให้เห็นว่าความทุกข์กับความตื่นรู้ หรือการพ้นทุกข์ ก็ไม่ได้แยกจากกัน ทุกข์กับความพ้นทุกข์ไม่ได้แยกจากกันเลย   อันนี้ท่านพูดเป็นอุปมาว่าเป็นภาษาอังกฤษ No Mud,No Lotus “ไม่มีโคลนตมก็ไม่มีดอกบัว” มีดอกบัวได้ก็ต้องมีโคลนตม อันนี้เป็นอุปมา โคลนตมคือความทุกข์ อาจจะรวมถึงกิเลสด้วยก็ได้ ดอกบัวคือความตื่นรู้ ความรู้แจ้ง   จะรู้แจ้งได้ก็ต้องอาศัยความทุกข์ ถ้าไม่มีความทุกข์ก็ไม่มีความรู้แจ้ง ความรู้แจ้งคืออะไร ก็คือความพ้นทุกข์ ความทุกข์กับความพ้นทุกข์ หรืออิสระจากความทุกข์ จึงไม่ได้แยกจากกัน   อันนี้เป็นคำสอนที่ลึกซึ้งมาก แต่ว่าเข้าใจได้ง่าย อันนี้เป็นเอกลักษณ์ของท่านติชนัทฮันห์ และที่สำคัญคือ ชีวิตของท่าน สามารถที่จะเปลี่ยนชีวิตของผู้คนได้เป็นจำนวนมาก แล้วก็ทำให้เกิดกระแสใหม่ในวงการพระพุทธศาสนาซึ่งอาตมาเชื่อว่า ก็คงจะมีผลยั่งยืนไปอีกนานเลยทีเดียว อันนี้ก็เล่าเอาไว้ท่านติชนัทฮันห์ได้มีอิทธิพลอย่างไรกับผู้คนโดยเฉพาะกับคนหนุ่มสาวอย่างอาตมาจนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้